หัวใจพิบัติ กับ เพศสัมพันธ์

ในสังคมก่อนการพัฒนา ผู้คนมักจะกอดจับกันได้อย่างเปิดเผย แต่ในสังคมที่พัฒนาแล้วอย่างของเราในปัจจุบัน การแสดงออกอย่างธรรมชาติ เช่นนี้ เป็นไปได้ค่อนข้างยาก อย่างไรก็ดี การกอด ลูบไล้ หรือจับมือถือแขนในที่ระโหฐาน เป็นวิธีการอันอบอุ่นที่ผู้ป่วยด้วย \"หัวใจพิบัติ\" จะสามารถกลับเข้าสู่ความผูกพันกับค๔เพศสัมพันธ์ของตนได้

กลับเข้าสู่ความสัมพันธ์
       ภาพยนตร์และวารสารต่างๆ เต็มไปด้วยฉากของคนเป็นโรคหัวใจ แล้วหัวใจวายตายในอ้อมอกของคนรัก ตำนานมีว่า "อฮิล่า กษัตริย์นักรบ ผู้แกร่งกล้า มิได้ยอมแพ้ในสนามรบ แต่ยอมสยบในอ้อมอกสตรี"
       เมื่อคำนึงถึงวัย เพศ ระดับของเพศสัมพันธ์ และประเภทของโรคหัวใจแล้ว 80% ของผู้ป่วยด้วย "หัวใจพิบัติ" สามารถที่จะกลับเข้าสู่กิจวัตรประจำวันได้ ซึ่งก็รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ด้วย
       ตามจริงแล้ว "หัวใจพิบัติ" ที่เกิดขึ้นเนื่องจากความเหนื่อยนั้น มีน้อยทีเดียว เพศสัมพันธ์ที่จะทำให้เป็นโรคหัวใจนั้นมีความเสี่ยงน้อยกว่าที่คุณอาจคาดคิด
       โดยทั่วไป ผู้ป่วยที่ประสบ "หัวใจพิบัติ" จะสามารถกลับเข้าสู่เพศสัมพันธ์ได้ในอาทิตย์ที่ 4-8 หลังเกิด "หัวใจพิบัติ"
       คุณจะทำอะไรก็แล้วแต่ แต่อย่าหักโหม ทำในสิ่งที่คุณจะรู้สึกสบายและผ่อนคลายเท่านั้น

 
ความรู้สึกเศร้าหมอง
       ภายหลังจาก "หัวใจพิบัติ" ร่างกายของคุณจะไม่สมบรูณ์ในบางกรณีความสัมพันธ์ทางเพศกับคู่ก็อาจไม่สมบูรณ์ไปด้วย เพราะคุณต้องแยกกันอยู่พักหนึ่งในขณะที่อยู่โรงพยาบาล จึงอาจเกิดคำถามว่า "เรายังมีเพศสัมพันธ์กันได้ไหม" "แล้วมันจะดีไหม ?" หรือ "มันจะก่อให้เกิดความรำคาญ ?" บางครั้งคู่ของคุณซึ่งไม่ได้มี "หัวใจพิบัติ" อาจปกป้องคุณเกินไป ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อคนที่เรารักต้องป่วยลง ซึ่งคุณอาจไม่ยอมรับในการที่ต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่น และเกิดความท้อแท้ขึ้น ความรู้สึกเช่นนี้จะมีจริง โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นผู้บริหารระดับแนวหน้า หรือเป็นผ๔นำของบ้านเมื่อก่อนที่คุณจะประสบ "หัวใจพิบัติ"
       นอกจากนั้น คุณทั้งคู่มักจะรู้สึกเศร้าหมอง หากคนใดเกิด "หัวใจพิบัติ" ความรู้สึกนี้จะก่อให้เกิดความไม่สนใจในเรื่องเพศ เพราะทั้งคู่เกรงต่อการเกิด "หัวใจพิบัติ" ขึ้นอีก หรือเกิดความโกรธหรือละอายใจความรู้สึกเศร้าหมอง หรือความรู้สึกที่ต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่น อาจก่อให้เกิดปัญหาเรื่องเพศขึ้นในบ้าน ฉะนั้นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่ทั้งคู่จะทราบเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์หลัง "หัวใจพิบัติ" ก็คือ ก่อนที่คุณจะออกจากโรงพยาบาล
       ทั้งคู่มีส่วนรับผิดชอบในการร่วมประสานความสัมพันธ์ทางเพศในเมื่อทุกวันนี้เพศสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องที่น่าละอายแล้ว ก็ไม่น่าลังเลที่จะสอบถามจากแพทย์ หรือปรึกษาหารือในเรื่องที่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคู่
 

การออกกำลังใจ 
       ประโยชน์ของการออกกำลังเพื่อหัวใจ ได้กล่าวมาอย่างกระจ่างแล้วว่า ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง และทำให้ทำงานในปริมาณเท่าเดิม โดยมีความหักโหมน้อยลง ด้วยเหตุนี้ แพทย์จึงมักสั่งให้คุณออกกำลัง โดยค่อยๆ เพิ่มขึ้น เพื่อให้ร่างกายคุณสมบูรณ์ ซึ่งอาจหมายถึง การเดิน, ว่ายน้ำ, เล่นกอล์ฟ (โดยมีรถลาก), จ๊อกกิ้ง ทั้งหมดนี้ต้องเริ่มช้าๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
       นอกจากนั้น การออกกำลังดูจะเป็นการแก้ความรู้สึกเศร้าหมองที่ดีที่สุดหลังจาก "หัวใจพิบัติ" และจากการออกกำลัง คุณจะเริ่มรู้สึกว่าคุณต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่นน้อยลง และมีความมั่นใจว่าตัวเองนั้นทำอะไรได้
       อย่างไรก็ดี ต้องสอบถามแพทย์ก่อนปฏิบัติการในการออกกำลังทุกประเภท เพราะการออกกำลังในแต่ละอย่าง มีผลต่างกันไปในแต่ละคน คุณอาจต้องทดสอบด้วยการเดินบนสายพานเพื่อทดสอบดูว่าคุณควรออกกำลังประเภทใด 

หัวใจของคุณในระหว่างเพศสัมพันธ์ 
       กิจวัตรประจำวันหลายอย่างเพิ่มความเร็วของชีพจร การขึ้นบันไดและเดิน คือ 2 อย่างที่ทำบ่อยที่สุด ระหว่างกิจกรรมเหล่านี้ หัวใจของคุณจะเต้น 107-130 ครั้งต่อนาที โดยการเปรียบเทียบหัวใจจะเต้น 117 ครั้งต่อหนึ่งนาทีระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้น หากคุณสามารถขึ้นบันไดหรือออกกำลังได้โดยไม่รู้สึกเหนื่อยมากหรือร้าวทรวงเจ็บหน้าอกแล้ว คุณก็จะทราบได้ว่าหัวใจของคุณสามารถรับกำลังที่ต้องใช้ในการมีเพศสัมพันธ์ได้แล้ว 


4 ขั้นตอนของการมีเพศสัมพันธ์ 
       ในขณะมีเพศสัมพันธ์ร่างกายของคุณจะมีความรู้สึกเปลี่ยนแปลงดังนี้ :-
       ปลุกอารมณ์ - ผิวจะแดง การหายใจและชีพจรจะค่อยๆ แรงและเร็วขึ้น ความดันโลหิตจะขึ้นเล็กน้อย
       เกิดอารมณ์ - อาการข้างต้นจะเพิ่มมากขึ้น
       ถึงจุดสุดยอด - ช่วงนี้หัวใจจะทำงานหนักที่สุด ชีพจรอาจเต้นถึง 150 ครั้งต่อหนึ่งนาที ความดันโลหิตอาจขึ้นถึง 160/90 และจะอยู่ในขั้นนี้ประมาณ 15-20 วินาที กำลังที่ต้องการในขณะนี้เท่ากับการขึ้นบันได 2 ขั้น หรือเดินอย่างเร็ว
       ขั้นสุดท้าย - ร่างกายจะกลับสู่การเต้นของหัวใจและความดันโลหิตอย่างปกติภายในไม่กี่วินาที การเจ็บหรือเต้นแรงของหัวใจจะเกิดขึ้นก็ในช่วงนี้เป็นส่วนใหญ่
       ช่วงเวลาที่ใช้ในการมีเพศสัมพันธ์เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง สำหรับคนส่วนมากอาจจะใช้เวลาไม่นาน โดยเฉลี่ยแล้ว คนที่อยู่ในวัยกลางคน มีเพศสัมพันธ์กับคู่ของตนเองอาทิตย์ละ 2 ครั้ง โดยใช้เวลาทั้ง 4 ขั้นตอนประมาณ 10-16 นาที ในระยะเวลานี้ หัวใจจะทำงานหนักที่สุดเพียง 4-6 นาทีเท่านั้น

ความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์
       คุณจะมีเพศสัมพันธ์ถี่เพียงใดนั้น น่าจะพิจารณาย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาก่อนที่คุณจะเกิด "หัวใจพิบัติ" คู่ที่มีความพึงพอใจในรสนิยมแห่งการมีเพศสัมพันธ์เหมือนกัน ควรใช้แนวทางนี้
       การที่จะมีเพศสัมพันธ์อย่างยาวนาน ในอันที่จะพิสูจน์ความเป็น "แมน" หรือเพื่อให้เห็นว่าคุณสมบูรณ์ดีนั้นส่วนมาก คือ ความฝันหรือนิยายมากกว่าจะเป็นเรื่องจริงสำหรับคนส่วนใหญ่ การมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้งหรือเปลี่ยนคู่เรื่อยๆ จะทำให้ใช้กำลังมากขึ้น และทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้นด้วย
       หากคุณมั่นใจว่าร่างกายของคุณจะสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ โดยจะต้องค่อยเป็นค่อยไป ก็อาจเริ่มด้วยการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองก่อนหากคุณยอมรับ คุณจะสามารถควบคุมการกระตุ้นได้ และจะไม่ต้องรู้สึกพะวงเกี่ยวกับเวลาหรือการที่จะเอาใจคู่ของคุณ นอกจากนั้น การฝึกซ้อมด้วยตนเองเช่นนี้ อาจช่วยให้คู่ของคุณได้รับความพอใจเมื่อได้มีเพศสัมพันธ์อย่างสมบรูณ์ และการทดลองด้วยวิธีการดังกล่าวในสภาพบรรยากาศที่ดีจะช่วยให้มีการเพิ่มความเร็วของชีพจรและความดันโลหิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งก็เป็นการดีในการเตรียมตัวเพื่อการมีเพศสัมพันธ์

ท่วงท่าแห่งการมีเพศสัมพันธ์
      ไม่ควรพยายามเปลี่ยนท่วงท่าในการมีเพศสัมพันธ์หากการเปลี่ยนแปลงจะทำให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเกิดความกระวนกระวายใจ อย่างไรก็ดี คนที่ประสบ "หัวใจพิบัติ" ควรหลีกเลี่ยงท่วงท่าของการมีเพศสัมพันธ์ที่จะต้องใช้แขนรับน้ำหนักนานๆ ความกังวลและกล้ามเนื้อที่เมื่อยล้าจะทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น
       หากคุณชอบท่วงท่าบน / ล่าง อาจเป็นข้อแนะนำให้ผู้ที่ไม่ได้เป็นโรคหัวใจอยู่ข้างบนและเป็นฝ่ายที่มีบทบาท แต่ก็ยังไม่มีการค้นคว้าเพียงพอที่จะสรุปได้ว่า ผู้ที่มีบทบาทน้อยจะใช้กำลังน้อยกว่า
       บางคนที่เกิด "หัวใจพิบัติ" หลายครั้งอาจรู้สึกสะดวกกว่าเมื่อทั้งคู่ต่างนอนตะแคง จะหันหน้าเข้าหากันหรือหันหน้าตามกันก็ตามแต่ และบางคนอาจรู้สึกสบายกว่า กับท่วงท่านั่งหันหน้าเข้าหากัน
       การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก หากคุณยอมรับ จะไม่เพิ่มความเหนื่อยให้กับหัวใจ และสามารถเป็นการแสดงออกทางเพศได้
       การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก อาจไปกระตุ้นกล้ามเนื้อที่ปลายลำไส้ใหญ่และน้ำเมือก และอาจก่อให้เกิดการเต้นไม่เป็นจังหวะของหัวใจ การกระทำเช่นนี้ หากคุณไม่ขัดข้อง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการปฏิบัติ 

บรรยากาศแห่งการมีเพศสัมพันธ์ 
       หากคุณอารมณ์เสีย กังวล หรือเหนื่อย ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ ในเวลาเช่นนี้หัวใจของคุณก็เต้นแรงอยู่แล้ว การมีเพศสัมพันธ์จะยิ่งทำให้หัวใจต้องทำงานหนักยิ่งขึ้นไปอีก
       การมีเพศสัมพันธ์ในสิ่งแวดล้อมที่น่าภิรมย์ จะทำให้มีความรู้สึกสบาย หากหนาวจัด หรือร้อนจัด คุณจะไม่รู้สึกผ่อนคลายเท่าใดนัก
       ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญกับอากาศที่หนาวหรือร้อนจัดเกินไป เช่น การอาบน้ำร้อนหรือเย็นเกินไป เพราะจะมีผลต่อระบบการหมุนเวียนของโลหิต โดยทำให้เส้นเลือดฝอยหดตัวหรือขยายตัวได้
       ควรพักผ่อนก่อนการมีเพศสัมพันธ์ อาจนอนกลางวันเสียก่อน หรือช่วงเช้าอาจเป็นการดีที่สุด แต่หากการเปลี่ยนแปลงจะทำให้คุณเกิดความกังวลก็ควรปฏิบัติดังที่คุณเคยปฏิบัติมาแล้ว 

การรับประทานและการดื่ม 
        อาหารและเครื่องดื่มเป็นอีกอย่างหนึ่งในสังคมเราที่จะถือโอกาสบอกว่า "ฉันรักเธอ" แต่ถ้าคุณประสบ "หัวใจพิบัติ" แล้ว อย่ามีเพศสัมพันธ์หลังอาหารหนักหรือหลังการดื่ม เพราะหัวใจของคุณจะต้องทำงานเพื่อย่อยอาการและแอลกอฮอลล์มักจะเปลี่ยนปริมาณของโลหิตที่หัวใจสูบฉีดทุกนาทีควรรออย่างน้อย 3 ชม. หลังรับประทานอาหารหนักและดื่มแอลกอฮอลล์ก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์

ยารักษา
       แพทย์อาจสั่งให้คุณทานยา Inderal หรือ Nitroglycerin (ยาอมใต้ลิ้น) ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ ยาเหล่านี้จะป้องกันการอึดอัดหน้าอกหรือ อาการอื่นๆ แต่อย่างไรก็ดี ควรจะต้องหารือเกี่ยวกับการใช้ยาก่อน
       อาการเจ็บหน้าอกหรือร้าวทรวง (Angina) อาจเกิดขึ้นเนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์ เช่นเดียวกับการเหนื่อยอื่นๆ หากรู้สึกอึดอัดให้อมยาใต้ลิ้นและหยุดกิจกรรมทุกอย่างชั่วคราวก่อนที่จะทำต่อไป ถ้าหากอาการเจ็บหน้าอกยังคงปรากฏอยู่หรือเกิดค่อนข้างถี่ ให้รีบติดต่อแพทย์ในทันที 

       ยากล่อมประสาท (Tranquilizerrs) เช่น Librium , Valium , Atarax
       ยาคลายเศร้า (Anti - depressants) เช่น Elavil , Tofranil , Sinequan
       ยาลดความดันโลหิตสูงและ Inderal อาจก่อให้เกิดอาการซึมเศร้าทางเพศหรือสมรรถภาพทางเพศ หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับผลกระทบจากยาเหล่านี้ ให้ปรึกษาแพทย์
       นอกจากนี้แล้ว สตรีที่เป็นโรคหัวใจไม่ควรรับประทานยาคุมกำเนิด หรือ Estrogen สำหรับ menopause การตั้งครรภ์ของสตรีที่เป็นโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์
       ยากระตุ้น (Stimulants) เช่น amphitamines และ amylnitrite นั้นไม่แนะนำให้ใช้ แม้ว่าจะมีข้อมูลที่บ่งว่าเป็นกัญชานั้นยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม แต่อย่างไรก็ดี เป็นที่ทราบกันว่าจะเพิ่มเติมการเต้นของหัวใจและความต้องการของอ๊อกซิเย่นในกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ

       จงทำความรู้จักกับยาของคุณและทราบถึงสรรพคุณของมันด้วย

สมาคมโรคหลอดเลือดแดงแห่งประเทศไทย Thai Atherosclerosis Society

สมาคมโรคหลอดเลือดแดงแห่งประเทศไทย Thai Atherosclerosis Society

อาคารเฉลิมพระบารมี ๕๐ ปี ชั้น 5 โซนบี 2 ซอยศูนย์วิจัย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ห้วยขวาง บางกะปิ กรุงเทพฯ 10320

0-2716-6043, 087-830-9306 0-2716-6044